วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2557




     คงไม่มีใครหรอกครับที่จะชอบกินข้าวลิงเพราะรถเสียกลางทาง ส่วนใหญ่ก่อนที่รถเราจะพังนั้นมันมีสิ่งบอกเหตุหรืออาการเตือนให้เรารู้ล่วงหน้าอยู่แล้วขึ้นอยู่กับว่าเราจะสังเกตเห็นหรือไม่ เป็นไปได้ยากมากครับที่จู่ ๆ รถที่เราขับมาอยู่ดี ๆ จะพังจนวิ่งไม่ได้โดยที่เราจะไม่รู้ตัวมาก่อน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียทีเดียวนะครับ แต่ก็จะมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นและครับที่รถพังโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวกันมาก่อนจนต้องกินข้าวลิงอย่างที่บอกไว้ตั้งแต่ตอนต้น ที่บอกแบบนี้ก็เพราะว่าถ้าเรารู้จักวิธีการสังเกตุอาการที่เป็นสิ่งบอกเหตุว่ารถใกล้จะพังแล้วละก็ เราก็จะสามารถแก้ไขได้ล่วงหน้าก่อนที่จะเกิดอาการรถเสียขึ้นมาได้ทันท่วงทีนะครับ ลองมาดูกันดีกว่าครับว่า มีอาการอะไรบ้างและจะแก้ไขกันอย่างไร  

 

1. ถ้าหากว่ารถของคุณสตาร์ทเครื่องติดยากกว่าปกติ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการสตาร์ทนั่นจะต้องติดด้วยการบิดกุญแจครั้งเดียว และเสียงไดสตาร์ทไม่ลากยาวเกิน 3-4 จังหวะ ถ้านานกว่านั้นหรือต้องบิดกุญแจซ้ำ ๆ อีกหลายครั้งจนกว่าจะติดแสดงว่าแบตเตอรี่ใกล้ไปสวรรค์แล้วละครับ ลองตรวจเช็คอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ดูก่อนเป็นอันดับแรกเลยครับถ้าระยะเวลาเกิน 2 ปี หรือใกล้เคียงแล้วละก็ทางที่ดีเตรียมเปลี่ยนแบตเตอรี่เลยดีกว่าครับ 



2. มีรอยหยดของน้ำมันบนพื้นที่จอดรถหรือมีคราบน้ำมันซึมออกมาจากเครื่องยนต์ คราบน้ำมันทั้งที่ตัวเครื่องและรอยหยดบนพื้นนั้นบ่งบอกว่ามีการรั่วซึมของระบบหล่อลื่น ซึ่งอาจเกิดจากการที่ชิ้นส่วนต่าง ๆ ในระบบเครื่องยนต์เกิดการผิดปกติแน่นอน ให้รีบตรวจสอบหาจุดที่น้ำมันหรือของเหลวซึมออกมาให้เจอโดยด่วนแล้วให้ช่างจัดการแก้ไขโดยเร็วอย่าปล่อยไว้อย่างเด็ดขาด 

3. สังเกตเสียงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากรถ ไม่ว่าจะเป็นรถเก่าหรือรถใหม่ให้สังเกตและจดจำเสียงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากรถยนต์ของคุณให้ดี เช่น เสียงที่มาจากเครื่องยนต์ เสียงท่อไอเสีย เสียงล้อยางบดกับถนน รวมไปถึงอาการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น การฟังเสียงนั้นอาจดูยากสักหน่อยแต่ถ้าสังเกตบ่อย ๆ เชื่อว่าคุณจะรู้ถึงความแตกต่างที่เกิดขึ้น ถึงแม้คุณไม่รู้ว่าเสียงผิดปกติที่เกิดขึ้นนั้นมันมาจากอะไรก็ตามคุณก็ยังสามารถจดจะและนำไปบอกช่างให้ช่วยวินิจฉัยได้นะครับ   







4. มีควันขาวออกจากท่อไอเสีย เครื่องยนต์ที่สมบูรณ์นั้นจะไม่มีควันขาวออกจากท่อไอเสียอย่างแน่นอน ควันขาวอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ปรึกษาช่างโดยด่วนจะดีที่สุด 




5. การโยนตัวของรถ หากสังเกตให้ดีเมื่อขับรถบนทางขรุขระหรือถนนที่เป็นคลื่นแล้วรู้สึกว่านิ่มนวลหรือโยนตัวผิดปกติให้สันนิษฐานว่าช่วงล่างกำลังมีปัญหาไว้ก่อนได้เลยครับ อาจเป็นเพราะว่าสปริงโช๊คเกิดการล้า ควรรีบแก้ไขนะครับ ถ้าหากใช้ความเร็วสูงอาจควบคุมรถไม่อยู่เพราะเสียการทรงตัวได้
 


6. มีเสียงเวลาเบรก เสียงที่เกิดขึ้นจะเหมือนเสียงโลหะสีกันแสดงว่าผ้าเบรกสึกจนหมดแล้ว เหล็กที่รองผ้าเบรกจะเสียดสีกับจานเบรกจนเกิดความร้อนสูงและจะทำให้เบรกลื่นจนเบรกไม่อยู่ ควรเปลี่ยนผ้าเบรกพร้อมกับเจียรจานเบรกด้วยนะครับเพื่อลบรอยบนจานเบรกให้เรียบจะได้ใช้งานเบรกได้อย่างเต็ม  


7. รถไม่มีแรงเร่งไม่ขึ้นเหมือนเมื่อก่อน เกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ แหวนลูกสูบรั่ว เป็นต้น อาการเร่งไม่ขึ้นมักจะเกิดขึ้นทีละน้อยจนแทบไม่ทันสังเกต กว่าจะรู้ตัวว่ารถมีปัญหาก็บานปลายไปแล้ว ข้อนี้ต้องหมั่นสังเกตให้ดีนะครับปล่อยไว้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่
                ความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ของคุณตามที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นสัญญาณบอกเหตุว่ารถของคุณเริ่มที่จะมีปัญหาแล้ว หากสังเกตพบแล้วรีบแก้ปัญหาหรือปรึกษาช่างทันทีก็จะช่วยให้แก้ไขได้ทันท่วงที แต่ถ้าปล่อยไว้นานวันเข้าอาจเกิดปัญหาสะสมที่แก้ไขได้ยากและสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายสูง เข้าตำราเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย จงจำไว้ว่าการดูแลปรนนิบัติบำรุงเอาใจใส่รถยนต์ของคุณอย่างสม่ำเสมอจะเป็นการช่วยให้รถของคุณมีสุขภาพดีตลอดอายุการใช้งานนะครับ





 

Unordered List

Sample Text

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

Popular Posts

Recent Posts

wait

wait